รถใช้น้ำมันกับรถไฟฟ้า-มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร

รถใช้น้ำมันกับรถไฟฟ้า มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร?

การเข้ามาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดรถยนต์อย่างมาก ผู้บริโภคที่ใช้งานรถใช้น้ำมันหรือรถแบบสันดาปก็ให้ความสนใจ เชื่อว่าปัจจุบันก็ยังมีความสงสัยลังเลอยู่ว่า ระหว่างรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้ แบบไหนน่าใช้กว่ากัน ในมุมมองของแต่ละบุคคลอาจมีทั้งข้อที่ตอบโจทย์การใช้งานและข้อที่ไม่โดนใจอยู่ มาดูข้อดีข้อเสีย และความแตกต่างหลักๆ ของรถแต่ละประเภทในบทความนี้กัน

อัตราสิ้นเปลืองพลังงานระหว่างรถใช้น้ำมันและรถไฟฟ้า

มาดูข้อแรกในแง่ราคาและความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง พอจะกล่าวได้ว่าความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง/พลังงานในมุมค่าใช้จ่ายของรถใช้น้ำมันและรถไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 3-4 บาท/กิโลเมตร และประมาณ 1-2 บาท ตามลำดับ (เป็นค่าโดยเฉลี่ย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น อายุของรถ และรูปแบบการขับขี่) และเพราะน้ำมันเชื้อเพลิงเองมีราคาแพงกว่าการชาร์จไฟฟ้าด้วย

แหล่งเชื้อเพลิง/พลังงานของรถใช้น้ำมันกับรถไฟฟ้า

ตามชื่อที่ถูกเรียกรถประเภทนั้นๆ รถใช้น้ำมันใช้การเติมน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการสันดาปเผาไหม้ภายในเรื่องยนต์แล้วเกิดกำลังอัดผ่านกลไกไปขับเคลื่อนล้อ ขณะที่รถไฟฟ้านั้น ล้อถูกขับเคลื่อนโดยกำลังมอเตอร์โดยตรงมีการสูญเสียพลังงานน้อยกว่าแบบสันดาป นั่นหมายถึงรถไฟฟ้ามีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานงานสูงกว่านั่นเอง

ส่วนด้านแหล่งพลังงานของรถแต่ละประเภท หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าผู้ใช้รถน้ำมันสามารถหาสถานีบริการน้ำมันได้ง่ายกว่าจุดชาร์จไฟฟ้ามากและใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงไม่นาน แม้ปัจจุบันผู้ประกอบการพยายามผลักดันสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่จำนวนสถานีก็ยังน้อยกว่าปั๊มน้ำมันและไม่เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ดี แม้ผู้ใช้รถไฟฟ้าจะติดตั้งจุดชาร์จที่บ้านเองได้ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการติดตั้งระบบไฟฟ้าและจุดชาร์จ อีกทั้งการชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ยังใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันอยู่พอสมควร แต่ความจุของแบตเตอรี่ก็ยังไม่เพียงพอในการเดินทางไกลหากเทียบกับรถใช้น้ำมัน ตรงนี้ค่อนข้างชัดเจนว่ารถใช้น้ำมันได้เปรียบกว่า มีแผนรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดอยู่หรือเปล่า? เพื่อรับเงื่อนไขสินเชื่อรถยนต์ที่โดนใจกว่า

แหล่งเชื้อเพลิง-พลังงานของรถใช้น้ำมันกับรถไฟฟ้า

รถใช้น้ำมันและรถไฟฟ้า รถประเภทไหนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ากัน

แน่นอนว่ารถไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถใช้น้ำมันที่มีโอกาสปล่อยไอเสียซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และยังเป็นหนึ่งในสาเหตุของฝุ่น PM 2.5 แต่หากมองย้อนไปถึงขั้นตอนการผลิตแบตเตอรี่ ก็ล้วนมาจากสารเคมีอันตรายและวัสดุสังเคราะห์ทั้งสิ้น รวมถึงมีความกังวลในขั้นตอนการกำจัดทำลายแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ

ความหลากหลายของประเภทรถยนต์และศูนย์บริการของรถใช้น้ำมันและรถไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์ในบ้านเรา รถใช้น้ำมันนั้นครองตลาดมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลายทั้งยี่ห้อ รุ่นรถ ประเภทการใช้งาน ศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงความคุ้นเคย ความชำนาญของช่างและชิ้นส่วนอะไหล่ ขณะที่รถไฟฟ้าที่เข้ามาเป็นตัวเลือกในระยะหลัง ยังมีประเภทไม่มากเท่ารถใช้น้ำมัน โชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ในช่วงกำลังเติบโต

ด้านชิ้นส่วนอะไหล่ และการซ่อมบำรุง ปกติแล้วรถใช้น้ำมันมีระบบเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนและมีจำนวนชิ้นอะไหล่มากกว่ารถไฟฟ้า ดังนั้นการซ่อมบำรุงก็มีความซับซ้อนด้วยเช่นกัน ขณะที่รถไฟฟ้ามีชิ้นส่วนเครื่องยนต์น้อยกว่า ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาเรื่องปริมาณและความพร้อมของสต็อกอะไหล่รถไฟฟ้าด้วยเหมือนกัน

จากหัวข้อต่างๆ ข้างต้น จะได้เห็นข้อดีที่โดนใจและข้อด้อยที่ถูกหักคะแนน ระหว่างรถใช้น้ำมันและรถไฟฟ้าที่มีจุดเด่นของตัวเองในแต่ละมุม รวมถึงขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้งานด้วย หากกำลังมองหาบริการ รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เข้ามาหาเราได้ทุกสาขาหรือโทร 055-000-600 หรือติดต่อทาง LINE Official @sabuyleasing เพราะทุกความสบายใจเป็นไปได้ที่ สบาย ลีสซิ่ง