ชวนเกษตรกรทำความรู้จักและรับมือพายุหมุนเขตร้อนในไทย

ชวนเกษตรกรทำความรู้จักและรับมือพายุหมุนเขตร้อนในไทย

อย่างที่ทราบกันว่าประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีทั้งมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่สองฝั่งซ้ายขวา จึงได้รับอิทธิพลจากลมและพายุอยู่เสมอทั้งในด้านที่เกิดประโยชน์และโทษ มาดูกันว่าพายุหมุนเขตร้อนมีผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างไรบ้าง และมีวิธีการเตรียมตัวรับมืออย่างไร เพื่อเพิ่มผลผลิตในช่วงน้ำมาก รวมทั้งป้องกันความเสียหายจากผลกระทบของพายุที่รุนแรง

ชนิดของพายุหมุนเขตร้อนในประเทศไทย มีอะไรบ้าง

1. พายุดีเปรสชัน เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีความเร็วลมต่ำสุด มีกำลังน้อยที่สุด และเกิดขึ้นมากที่สุดในกลุ่มพายุเขตร้อน มีความเร็วลมสูงสุดไม่เกิน 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยทั่วไปมีอิทธิพลทำให้เกิดลมแรงหรือฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระบายน้ำไม่ทันและท่วมพื้นที่เพาะปลูกได้

2. พายุโซนร้อน อิทธิพลของพายุโซนร้อนส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง รวมถึงมีลมพายุที่มีกำลังมากจนทำให้สิ่งปลูกสร้างและพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย ต้นไม้ใหญ่หักโค่น จัดเป็นพายุหมุนที่มีกำลังระดับปานกลาง มีความเร็วลมระหว่าง 63 ถึง 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3. พายุไต้ฝุ่น (มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามแหล่งกำเนิด เช่น หากก่อตัวในมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า พายุไซโคลน ในมหาสมุทรแอตแลนติกเรียกว่าพายุเฮอร์ริเคน เป็นต้น) มีความเร็วลมมากกว่า 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีความรุนแรงสูงสุด สร้างความเสียอย่างมากกับสิ่งปลูกสร้าง เป็นอันตรายทั้งกับคนและปศุสัตว์ ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม ตามปกติพายุไต้ฝุ่นมักอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทย มักเหลือกำลังในระดับพายุดีเปรสชัน หรือพายุโซนร้อนเท่านั้น

ชนิดของพายุหมุนเขตร้อนในประเทศไทย

เกษตรกรรับมือกับพายุหมุนเขตร้อนอย่างไร

1. วางแผนจัดการน้ำ พายุมักพาฝนเข้ามาด้วย ดังนั้นเกษตรกรสามารถเก็บกักน้ำในช่วงนี้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้พื้นที่เกษตรมีน้ำมากเกินไปจนพืชผลเสียหาย ในเชิงป้องกันสามารถสำรวจทางระบายให้ใช้งานได้ปกติ ปรับปรุงซ่อมแซมให้ระบายน้ำได้ดี

2. เคลื่อนย้ายปศุสัตว์ อุปกรณ์เครื่องมือเกษตรขึ้นที่สูง พิจารณาเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง เครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรขึ้นที่สูง หากมีแนวโน้มฝนตกหนักจนเกิดอุทกภัย หลังพายุเคลื่อนผ่านพื้นที่ไปแล้วให้สำรวจความเสียหายและระบายน้ำออกจากพื้นที่

3. ขอรับความช่วยเหลือ หากแปลงเกษตรและผลผลิตได้รับความเสียหายจากพายุและอยู่ในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติ สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ หรือแจ้งผู้นำชุมชนเพื่อสำรวจรวบรวมข้อมูลและประสานงานต่อ

4. ติดตามข่าวสาร พยากรณ์อากาศ การมีข้อมูลลมพายุล่วงหน้าถือว่าได้เปรียบไปกว่าครึ่ง ช่วยให้เกษตรกรสามารถเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า วางแผนในการใช้ประโยชน์จากลมและน้ำ หรือวางแผนป้องกันความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมจากผลกระทบของพายุที่รุนแรง ปัจจุบันสามารถติดตามสภาพดินฟ้าอากาศได้หลายช่องทาง แนะนำแอปเช็คสภาพอากาศ ใช้ง่ายไม่พลาดข่าวสาร

     พายุเขตร้อนแต่ละชนิดมีระดับความรุนแรงและผลกระทบที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกมากน้อยต่างกัน การทราบข้อมูลพายุก่อนล่วงหน้า ทำให้สามารถวางแผนงบประมาณและแผนรับมือเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น การทำคันกั้นน้ำท่วม ซ่อมแซมทางระบายน้ำ เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนพายุเข้า และค่าจ้างเหมาแรงงานต่างๆ สบาย ลีสซิ่ง ให้คำปรึกษาสินเชื่อโฉนดที่ดิน เปลี่ยนที่เป็นทุน สนใจโทร 055-000-600 หรือติดต่อทาง LINE Official @sabuyleasing (มีเครื่องหมาย @ ด้านหน้า) เพราะทุกความสบายใจเป็นไปได้ที่ สบาย ลีสซิ่ง