อย่าลืม เมื่อได้โดรนเกษตรมาครอบครองมาเป็นตัวช่วยในงานหว่านปุ๋ยพ่นเคมีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอเอกสารและใบอนุญาตที่ออกโดยหน่วยงานต่างๆ ให้ถูกต้องครบถ้วน ดังนี้
1. ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเครื่องวิทยุคมนาคมสำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินสำหรับใช้งานเป็นการทั่วไป (โดรน) ที่ออกโดย กสทช. หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เอกสารนี้บางครั้งเรียกว่า ใบขึ้นทะเบียนโดรน หรือใบครอบครองโดรน หรือใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ หรือเอกสารครุฑแดง ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน นับจากวันที่ซื้อ ใบรับรองนี้มีอายุตลอดชีพ
ผู้ครอบครองโดรนเกษตร สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://anyregis.nbtc.go.th/ โดยสมัครลงทะเบียนผู้ใช้งานให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงเลือกบริการ “ขอใบขึ้นทะเบียนใหม่ (คท. 30)” กรอกข้อมูลอุปกรณ์ และใช้เอกสารหลักฐาน ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- รูปถ่ายโดรนที่แสดงซีเรียลนัมเบอร์ และรูปถ่ายกับอุปกรณ์ควบคุมที่แสดงซีเรียลนัมเบอร์
- ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี

2. หนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก) เป็นเอกสารที่ออกโดย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. (CAAT) เพื่อขึ้นทะเบียนนักบิน มักถูกเรียกว่า ใบอนุญาตนักบินโดรน หรือใบขับขี่โดรน หรือเอกสารครุฑดำ ตัวเอกสารมีอายุ 2 ปี
ผู้ต้องการขออนุญาตสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ระบบ UAS Portal ในเว็บไซต์ https://uasportal.caat.or.th/ โดยต้องสร้างบัญชีใหม่ก่อน แล้วจึงขอขึ้นทะเบียน โดยแนบหลักฐานที่จำเป็น ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
แล้วทำข้อสอบให้ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด
ทั้งนี้ กรณีโดรนมีน้ำหนักมากกว่า 25 กิโลกรัม ต้องระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ได้แก่ รูปแบบอากาศยาน (โดรนเกษตรส่วนใหญ่เป็น อากาศยานแบบปีกหมุน หรือ Multi Rotor) ยี่ห้อ รุ่น และน้ำหนัก และผู้บังคับโดรนต้องแนบเอกสารที่จำเป็น ได้แก่
- เอกสาร/ใบรับรองว่าผ่านการอบรมจากสถาบันที่ได้รับการรับรองจาก กพท.
- ใบรับรองแพทย์
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
3. กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก หรือเรียกว่า ประกันภัยบุคคลที่ 3 ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลที่ 3 กรณีเกิดการบาดเจ็บหรือได้รับความเสียหาย เป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการขอใบอนุญาตฯ กับ กพท. (เอกสารในข้อ 2.)